สอบถาม/จองคิว
สักคิ้ว 6 มิติ ลายเส้นธรรมชาติ ราคา? หลังลอก? อยู่นาน? ข้อเสีย/ดี ทุกสิ่งคุณควรรู้ก่อนไปทำ

สวัสดีค่ะสาวๆ ที่กำลังมองหาวิธีอัปเกรดความสวยให้คิ้วเป๊ะปังแบบไม่ต้องเสียเวลาเขียนทุกวัน
วันนี้เราจะมาเจาะลึกเรื่อง “สักคิ้ว 6 มิติ” กันค่ะว่าเป็นยังไง เหมาะกับเราไหม แล้วถ้าจะทำต้องรู้อะไรบ้าง ตามมาดูกันเลย!
เจาะลึก! “สักคิ้ว 6 มิติ” คืออะไรกันแน่?
การสักคิ้ว 6 มิติ ไม่ได้เป็นเพียงแค่การสร้างลายเส้นธรรมดาๆ นะคะ แต่เป็นเทคนิคการสร้างสรรค์ลายเส้นขนคิ้วที่เน้นความ เสมือนจริงมากที่สุด
ทั้งในเรื่องของขนาดเส้น ความโค้ง การเรียงตัวของเส้นขนตามทิศทางธรรมชาติ และการสร้างมิติความลึกตื้นของเส้นขน ทำให้คิ้วที่ได้ดูมีชีวิตชีวาและกลมกลืนไปกับขนคิ้วจริงของเราค่ะ

ในบางกรณี ช่างผู้เชี่ยวชาญอาจมีการผสมผสานเทคนิคต่างๆ เข้าด้วยกัน เช่น การใช้เทคนิคลายเส้น – Microblading ร่วมกับการลงสีฝุ่นเบาๆ (Shading) ในบางจุด
เพื่อเพิ่มความฟุ้งละมุนและมิติให้กับทรงคิ้ว ซึ่งนี่ก็เป็นส่วนหนึ่งของเทคนิคสักคิ้ว 6 มิติ ที่ทำให้ผลลัพธ์ดูเป็น สักคิ้วลายเส้นธรรมชาติ ยิ่งขึ้นค่ะ
ต่างจากการสักแบบอื่นยังไง?
เมื่อพูดถึงการสักคิ้ว มีหลายแบบให้เลือก หลายคนอาจจะสงสัยว่าการสักแบบ “6 มิติ” มันต่างจากเทคนิคอื่นๆ ยังไงบ้าง
ตารางเปรียบเทียบเทคนิคการสักคิ้วคุณสมบัติ | คิ้ว 6 มิติ | คิ้ว 3 มิติ | คิ้วสไลด์ฝุ่น |
---|---|---|---|
ลักษณะลายเส้น | ส้นละเอียด พริ้วไหวหลายมิติ เลียนแบบขนคิ้วจริง ซ้อนทับเป็นธรรมชาติ | สร้างลายเส้นเลียนแบบขนคิ้ว เส้นเป็นระเบียบ ชัดเจนกว่า 6 มิติเล็กน้อย | ไม่เน้นลายเส้น ลงสีคล้ายการเขียนคิ้วด้วยดินสอ/สีฝุ่นเต็มกรอบ |
ความเป็นธรรมชาติ | สูงที่สุด กลมกลืนสมจริง | สูง ดูเป็นธรรมชาติ | ธรรมชาติแบบคิ้วเขียน มีทรงชัดเจน |
เหมาะกับใคร/ สภาพผิว | ต้องการความเป็นธรรมชาติสูงสุด คนคิ้วน้อย/บาง คนผิวปกติ-แห้ง (ผิวมันต้องดูแลพิเศษ) | ต้องการเพิ่มลายเส้นให้คิ้ว ผิวปกติ-แห้ง (ผิวมันติดทนน้อยกว่า) | ชอบคิ้วทรงชัดเหมือนเขียน คนที่คิ้วน้อยมาก/ไม่มีเลย เหมาะกับทุกสภาพผิว (รวมผิวมัน) |
คิ้ว 3 มิติ (Microblading แบบดั้งเดิม)
เน้นการสร้างลายเส้นเลียนแบบขนคิ้ว อาจจะดูเป็นระเบียบกว่า ส่วนการสักแบบ 6 มิติ เป็นพัฒนาขึ้นมาให้ลายเส้นมีความละเอียด พริ้วไหว และซับซ้อนกว่า ดูมีมิติกว่า 3 มิติ เส้นขนคิ้วอาจมีการซ้อนทับกันในลักษณะที่เหมือนจริงยิ่งขึ้น
คิ้วสไลด์สีฝุ่น (Eyebrow Shading/Powder Brows)
เป็นการลงสีให้ดูเหมือนการเขียนคิ้วด้วยดินสอหรืออายแชโดว์ ไม่มีลายเส้น เหมาะกับคนที่ชอบคิ้วคมชัดหรือมีขนคิ้วเดิมน้อยมาก
คิ้วลายเส้นผสมฝุ่น (Combination Brows)
เป็นการรวมข้อดีของเทคนิคลายเส้นในช่วงหัวคิ้วเข้ากับการลงสีฝุ่นในช่วงกลางถึงหางคิ้ว ทำให้ได้ทั้งความเป็นธรรมชาติและความคมชัดค่ะ
การจะเลือกเทคนิคไหนก็ขึ้นอยู่กับความชอบ สภาพผิว และผลลัพธ์ที่เราต้องการ ซึ่งการสักคิ้ว 6 มิติจะโดดเด่นในเรื่องของความเป็นธรรมชาติและความสมจริงของลายเส้นนั่นเองค่ะ
ข้อดี
- สวยเป็นธรรมชาติขั้นสุด: ลายเส้นละเอียด พริ้วไหว เหมือนขนคิ้วจริงจนแทบแยกไม่ออก
- คิ้วมีมิติ ดูไม่แบน: ช่วยให้ใบหน้าโดยรวมดูมีมิติมากขึ้น
- แก้ปัญหาคิ้วได้ตรงจุด: ไม่ว่าจะเป็นคิ้วบาง คิ้วแหว่ง คิ้วไม่ได้รูปทรง
- ตื่นมาก็สวยเลย: ประหยัดเวลาแต่งหน้าไปได้เยอะ ไม่ต้องกังวลว่าคิ้วจะหายระหว่างวัน
- เสริมความมั่นใจ: คิ้วสวยเข้ารูปช่วยให้ใบหน้าดูดีขึ้น
- อยู่ได้นานพอสมควร: โดยทั่วไปสีจะติดทนได้ประมาณ 1-3 ปี (ขึ้นอยู่กับสภาพผิวและการดูแล) ก่อนจะต้องเติมสี
ข้อเสีย
- อาจมีความรู้สึกเจ็บบ้าง: ถึงแม้จะมีการทายาชาก็ตาม แต่ระดับความเจ็บของแต่ละคนไม่เท่ากัน
- สีอาจมีการเปลี่ยนแปลง: เมื่อเวลาผ่านไปสีอาจจางลง หรืออาจมีเฉดสีเพี้ยนไปบ้างเล็กน้อยหากใช้สีที่ไม่มีคุณภาพ หรือขึ้นอยู่กับปัจจัยภายนอกเช่นแสงแดด
คนที่คาดหวังว่าคิ้วจะเป๊ะเหมือนการเขียนคิ้วด้วยดินสอทุกวัน อาจจะต้องทำความเข้าใจใหม่ว่าการสักคิ้ว 6 มิตินั้นเน้นความเป็นธรรมชาติและความสมจริงของลายเส้น ซึ่งอาจจะไม่ได้คมกริบเท่าการเขียนคิ้วด้วยเครื่องสำอางค่ะ
คนแบบไหนที่เหมาะสุดๆ กับการสักคิ้ว 6 มิติ
การสักคิ้ว 6 มิติถือเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับสาวๆ (หรือหนุ่มๆ ก็ตาม) ที่มี ขนคิ้วเดิมค่อนข้างน้อย หรือมีเส้นขนคิ้วที่บาง และต้องการเพิ่มความหนาและความชัดเจนให้กับคิ้วโดยที่ยังคงความเป็นธรรมชาติเอาไว้ค่ะ

หากคุณเป็นคนที่ ชอบลุคใสๆ แต่งหน้าเบาๆ หรือแม้กระทั่งไม่ค่อยแต่งหน้า แต่อยากให้คิ้วดูมีทรงสวยเป๊ะตลอดเวลา โดยเฉพาะคนที่ อยากได้ลายเส้นคิ้วที่ดูสมจริงมากๆ จนแทบแยกไม่ออกว่าผ่านการสักมาเทคนิคนี้ก็น่าจะตอบโจทย์ได้ดีเลยทีเดียว
คนที่มี สภาพผิวปกติถึงผิวแห้ง ก็มักจะได้ผลลัพธ์ที่ดี สีติดทน และลายเส้นคมชัดกว่าค่ะ
คนที่อาจจะต้องพิจารณาเป็นพิเศษก่อนสัก
- สำหรับสตรีมีครรภ์ หรือคุณแม่ที่กำลังให้นมบุตร โดยทั่วไปแล้วถือเป็นข้อห้ามเพื่อความปลอดภัยของทั้งคุณแม่และลูกน้อยค่ะ
- นอกจากนี้ ผู้ที่มีโรคประจำตัวบางอย่าง เช่น โรคเบาหวานที่ยังควบคุมระดับน้ำตาลได้ไม่ดี, โรคเกี่ยวกับการแข็งตัวของเลือด, หรือมีโรคผิวหนังอักเสบรุนแรงบริเวณคิ้ว ก็ควรปรึกษาแพทย์เจ้าของไข้ก่อนตัดสินใจสักคิ้วนะคะ
- และสำหรับคนที่เคยสักคิ้วมาก่อนแล้วสีเดิมยังคงเข้มจัด หรือมีทรงคิ้วที่ไม่สวยงาม อาจจำเป็นต้องทำการลบรอยสักเดิมออกก่อน ซึ่งกระบวนการลบรอยสักก็มีค่าใช้จ่ายและต้องใช้เวลาพอสมควรค่ะ
การทำความเข้าใจในข้อจำกัดเหล่านี้จะช่วยให้คุณตัดสินใจได้ง่ายขึ้นว่า สักคิ้ว 6 มิติเหมาะกับใคร และคุณคือหนึ่งในนั้นหรือไม่ รวมถึง ผิวมันสักคิ้ว 6 มิติได้ไหม ก็จะได้คำตอบที่ชัดเจนยิ่งขึ้นค่ะ
ผิวมันสักได้ไหม?
คนที่มีผิวมันมากๆ ลายเส้นอาจจะจางเร็วกว่าปกติ หรือดูกระจายตัวไม่คมชัดเท่าที่ควร ซึ่งในกรณีนี้ช่างบางท่านอาจจะแนะนำเทคนิคการสักแบบผสมผสาน เช่น ลายเส้นร่วมกับสีฝุ่น หรืออาจจะมีเทคนิคพิเศษอื่นๆ ที่เหมาะสำหรับผิวมันโดยเฉพาะค่ะ
ส่วนคนที่มีผิวบอบบางแพ้ง่ายมากๆ ควรแจ้งให้ช่างทราบล่วงหน้า และอาจจะต้องมีการทดสอบการแพ้สีสักก่อนทำจริง
ก่อนทำต้องเตรียมตัวยังไงบ้าง?
ก่อนวันนัดสักคิ้ว:
- งดการกันคิ้ว แว็กซ์คิ้ว หรือถอนขนคิ้วเอง อย่างน้อย 1-2 สัปดาห์ เพื่อให้ช่างเห็นแนวขนคิ้วตามธรรมชาติและออกแบบได้ง่ายขึ้น
- งดการรับประทานยาหรือวิตามินที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด เช่น แอสไพริน, วิตามินอีปริมาณสูง, น้ำมันตับปลา, ยาแก้อักเสบบางชนิด (กลุ่ม NSAIDs) ประมาณ 1 สัปดาห์ก่อนสัก (หากไม่แน่ใจควรปรึกษาแพทย์หรือช่างผู้เชี่ยวชาญ)
- งดการดื่มแอลกอฮอล์ในวันที่มาสัก หรืออย่างน้อย 24 ชั่วโมงก่อนสัก เพราะอาจมีผลต่อการไหลเวียนของเลือดและความรู้สึกเจ็บ
- พักผ่อนให้เพียงพอ เพื่อให้ร่างกายพร้อม
- ดูแลผิวหน้าให้สะอาด หลีกเลี่ยงการเกิดสิวอักเสบบริเวณคิ้วในช่วงใกล้สัก
- ศึกษาข้อมูลและเลือกร้านที่น่าเชื่อถือ: ดูผลงาน รีวิว และความเชี่ยวชาญของช่าง
- เตรียมแบบคิ้วที่ชอบ (ถ้ามี): สามารถนำไปเป็นแนวทางให้ช่างช่วยออกแบบได้
- แจ้งประวัติการแพ้ยา หรือโรคประจำตัว ให้ช่างทราบอย่างละเอียด
ขั้นตอนการสัก (แบบละเอียด Step-by-Step)

- การให้คำปรึกษาและออกแบบทรงคิ้ว (Consultation & Design):
ช่างจะพูดคุยสอบถามความต้องการของเราก่อนว่าอยากได้คิ้วสไตล์ไหน จากนั้นจะวิเคราะห์โครงหน้า รูปตา และลักษณะขนคิ้วเดิมของเราอย่างละเอียด แล้วจึงเริ่มวาดออกแบบทรงคิ้ว ด้วยดินสอให้เราดูก่อน เราสามารถแสดงความคิดเห็นและปรับแก้ทรงคิ้วร่วมกับช่างจนกว่าจะพอใจได้เลยค่ะ เพราะขั้นตอนนี้ถือว่าสำคัญมากในการกำหนดทิศทางความสวยของคิ้วเรา หลังจากได้ทรงที่ถูกใจแล้ว ช่างจะช่วย เลือกสี ที่เหมาะสมกับสีผิว สีผม และเน้นความเป็นธรรมชาติให้กับเราค่ะ - การเตรียมผิวก่อนเริ่มสัก (Preparation):
ช่างจะทำความสะอาดบริเวณคิ้วของเราให้ปราศจากเครื่องสำอางและสิ่งสกปรก จากนั้นจะทายาชา ชนิดครีมบริเวณคิ้วให้ทั่ว และทิ้งไว้ประมาณ 30-45 นาที เพื่อให้ยาชาออกฤทธิ์เต็มที่ ซึ่งจะช่วยลดความรู้สึกเจ็บระหว่างการสักได้มากค่ะ - เริ่มขั้นตอนการสัก (The Tattooing Process):
ช่างจะเช็ดยาชาออกและเริ่มทำการสักตามแบบที่ได้วาดและตกลงกันไว้ โดยช่างจะใช้เครื่องมือเฉพาะทาง อาจจะเป็นใบมีดขนาดเล็กหลายๆ ซี่เรียงกัน (ที่เรียกว่า Microblade) หรือเครื่องสักดิจิทัลที่มีปลายเข็มขนาดเล็ก ค่อยๆ สร้างลายเส้นขนคิ้วทีละเส้นอย่างบรรจงและประณีตค่ะ ในระหว่างการสัก ช่างอาจมีการเติมยาชาชนิดน้ำเป็นระยะเพื่อช่วยลดความรู้สึกเจ็บ ช่างจะค่อยๆ สร้างมิติและความหนาแน่นของขนคิ้วจนได้รูปทรงตามที่ออกแบบไว้ ซึ่ง สักคิ้วใช้เวลานานไหม ในขั้นตอนนี้ก็อาจจะประมาณ 1-2 ชั่วโมง หรือมากกว่านั้น ขึ้นอยู่กับความละเอียดของลายเส้นและทรงคิ้วที่เลือกค่ะ - ตรวจสอบความเรียบร้อยและเสร็จสิ้น (Final Check & Completion):
เมื่อสักเสร็จเรียบร้อย ช่างจะทำความสะอาดบริเวณคิ้วอีกครั้ง และให้เราตรวจสอบความเรียบร้อยของผลงาน หากทุกอย่างเป็นที่พอใจแล้ว
ช่างอาจจะทาครีมหรือเจลบำรุงเพื่อช่วยสมานผิวและลดการระคายเคือง ลักษณะของคิ้วหลังสักทันทีสีจะดูเข้มกว่าปกติ และอาจมีรอยแดงหรืออาการบวมเล็กน้อยบริเวณรอบๆ คิ้ว ซึ่งถือเป็นอาการปกติที่พบได้ค่ะ ไม่ต้องกังวลไปนะคะ
หลังสักต้องดูแลตัวเองยังไงให้คิ้วสวยเป๊ะ สีติดทน? (สำคัญมาก!)
การดูแลตัวเองหลังสักคิ้ว 6 มิติ ถือเป็นขั้นตอนที่สำคัญมากๆ ค่ะ เพราะจะส่งผลต่อความสวยงามและความติดทนของสีคิ้วเราโดยตรงเลย

ช่วง 24-48 ชั่วโมงแรก (หรือตามคำแนะนำของช่าง):
- ห้ามคิ้วโดนน้ำเด็ดขาด หรือถ้าจำเป็นต้องโดนจริงๆ ให้รีบซับเบาๆ ให้แห้งทันที
- อาจมีการให้ทำความสะอาดคิ้วเบาๆ ด้วยน้ำเกลือซับเพื่อเช็ดคราบน้ำเหลือง
ช่วง 3-7 วันแรก (หรือจนกว่าคิ้วจะลอกหมด): มีข้อห้ามสำคัญที่ต้องจำให้ขึ้นใจเลยคือ
- ห้ามแกะ เกา หรือดึงสะเก็ดแผล ที่เริ่มลอกออกมาเด็ดขาด ปล่อยให้ลอกหลุดไปเองตามธรรมชาติ เพราะอาจทำให้สีหลุดไม่สม่ำเสมอ หรือเกิดแผลเป็นได้
- หลีกเลี่ยงการโดนน้ำ สบู่ โฟมล้างหน้า หรือเครื่องสำอาง บริเวณคิ้วโดยตรง
- งดการแต่งหน้าบริเวณคิ้ว จนกว่าคิ้วจะลอกหมดและแผลหายดี
- งดการออกกำลังกายหนักๆ ที่ทำให้เหงื่อออกมาก หรือกิจกรรมที่ทำให้หน้าเปียก เช่น ว่ายน้ำ ซาวน่า อบไอน้ำ
- หลีกเลี่ยงแสงแดดจัด หากจำเป็นต้องออกแดดควรใส่หมวกหรือแว่นกันแดด
ลักษณะคิ้วในช่วงนี้ สีคิ้วจะยิ่งดูเข้มขึ้นกว่าวันแรก จากนั้นจะค่อยๆ ตกสะเก็ดและลอกออก อย่าตกใจนะคะ เป็นเรื่องปกติ
คำแนะนำช่วงหลังคิ้วลอก (ประมาณ 1-2 สัปดาห์):
เมื่อผ่านช่วงคิ้วลอกหลังสักไปแล้ว ซึ่งโดยทั่วไปจะใช้เวลาประมาณ 1-2 สัปดาห์ สีคิ้วที่เห็นอาจจะดูจางลงกว่าตอนที่เพิ่งสักเสร็จใหม่ๆ หรืออาจจะดูจางกว่าที่เราคาดหวังไว้ ไม่ต้องกังวลใจไปนะคะ เพราะนี่เป็นเรื่องปกติค่ะ
สีจะค่อยๆ ดันตัวขึ้นมาให้เห็นชัดเจนและสวยงามขึ้นอีกภายในระยะเวลาประมาณ 4-8 สัปดาห์ ซึ่งเป็นช่วงที่กระบวนการสมานผิวและการปรับตัวของเม็ดสีเสร็จสมบูรณ์ค่ะ
เมื่อคิ้วลอกหมดแล้ว เราสามารถเริ่มทำความสะอาดใบหน้าและแต่งหน้าได้ตามปกติ แต่ก็ยังควรระมัดระวังการขัดถูแรงๆ บริเวณคิ้วนะคะ และอย่าลืม ทาครีมกันแดด บริเวณคิ้วเป็นประจำเพื่อป้องกันสีซีดจางจากแสงแดดค่ะ
อาหารที่ควรระวัง
แนะนำให้งดอาหารทะเล ของหมักดอง หรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในช่วง 1 สัปดาห์แรกหลังสัก เพื่อช่วยลดความเสี่ยงที่อาจเกิดการอักเสบหรืออาการคันได้
ต้องเติมสีไหม?
สำหรับการเติมสีคิ้ว หรือ Touch-up Session นั้น มีความสำคัญไม่น้อยไปกว่าการสักครั้งแรกเลยค่ะ เพราะว่าการเติมสีจะช่วย
- เก็บรายละเอียดของลายเส้น ทำให้สีคิ้วมีความสม่ำเสมอมากยิ่งขึ้น
- ช่วยให้สีติดทนทานยาวนานขึ้น
- และยังสามารถปรับแก้ทรงหรือความเข้มของสีให้สมบูรณ์แบบตรงตามที่เราต้องการได้อีกด้วยค่ะ
โดยทั่วไปแล้ว ช่างจะนัดให้เรากลับไป เติมสีประมาณ 4-8 สัปดาห์ หลังจากการสักครั้งแรก ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ผิวหนังบริเวณคิ้วสมานตัวเต็มที่แล้วค่ะ
ราคาประมาณเท่าไหร่? เตรียมงบไว้แค่ไหนดี?
ช่างที่มีชื่อเสียงและประสบการณ์สูงก็มักจะมีอัตราค่าบริการที่สูงตามไปด้วยค่ะ นอกจากนี้คุณภาพของสีที่ใช้ ก็เป็นอีกปัจจัยสำคัญ สีสักเกรดพรีเมียม สีออร์แกนิก หรือสีที่นำเข้าจากต่างประเทศที่มีคุณภาพดีและปลอดภัย ก็อาจทำให้ต้นทุนสูงขึ้น ส่งผลให้ราคาค่าบริการสูงขึ้นตามมาค่ะ

โดยทั่วไปแล้ว ช่วงราคาโดยประมาณสำหรับการสักคิ้ว 6 มิติ อาจจะเริ่มต้นตั้งแต่หลักพันกลางๆ ไปจนถึงหลักหมื่นบาท หรืออาจจะมากกว่านั้นในบางกรณี (เช่น ราคาอาจอยู่ในช่วง 3,000 – 15,000 บาท หรือสูงกว่า)
ควรสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมว่าราคานั้นครอบคลุมค่าบริการอะไรบ้าง เช่น ค่ายาชา, ค่าครีมบำรุงหลังการสัก, และค่าบริการเติมสีในครั้งแรก รวมอยู่ด้วยหรือไม่ และอย่าลืมสอบถามเกี่ยวกับโปรโมชั่นต่างๆ ที่อาจจะมีในช่วงนั้นด้วยนะคะ
อ.เจน (ช่างสักมือ 1 ร้าน อ.หญิงบิวตี้ สาขายูเนี่ยนมอลล์) เป็นผู้ประกอบวิชาชีพช่างสักที่มีทักษะสูงและมีประสบการณ์มากกว่า 15+ ปี จองสักกับอาจารย์วันนี้ราคาโปรเพียง 5000 บาท
สามารถโทรมาขอคำปรึกษา 080-121-0178 ก่อนตัดสินใจก่อนได้ค่ะ
ไขข้อข้องใจ! คำถามที่พบบ่อย (FAQ)
Q1: เจ็บมากไหมคะ?
A: ก่อนทำจะมีการทายาชาค่ะ ช่วยลดความรู้สึกเจ็บไปได้มาก อาจจะรู้สึกจี๊ดๆ หรือเหมือนโดนข่วนเบาๆ บ้าง แต่ส่วนใหญ่จะทนได้ค่ะ ระดับความเจ็บขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคลด้วย
Q2: อยู่ได้นานแค่ไหน?
A: โดยเฉลี่ยประมาณ 1-3 ปีค่ะ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละคน (ผิวมันสีอาจจะจางเร็วกว่า) การดูแลตัวเองหลังสัก คุณภาพของสีที่ใช้ และการโดนแสงแดดค่ะ หลังจากนั้นสีจะค่อยๆ จางลง สามารถเติมสีใหม่ได้
Q3: ถ้าสักไปแล้วไม่ชอบ สามารถลบได้ไหม?
A: สามารถลบได้ค่ะ แต่การลบรอยสักคิ้วมีหลายวิธี (เช่น เลเซอร์, ใช้น้ำยาลบรอยสัก) ซึ่งอาจจะต้องทำหลายครั้ง มีค่าใช้จ่าย และใช้เวลาพอสมควร ทางที่ดีควรเลือกแบบและร้านที่มั่นใจตั้งแต่แรกนะคะ
Q4: ใช้เวลาในการสักนานเท่าไหร่?
A: รวมเวลาทายาชา ออกแบบ และลงมือสักจริง อาจใช้เวลาประมาณ 1-2 ชั่วโมงค่ะ ขึ้นอยู่กับความละเอียดของงานและทรงคิ้ว
Q5: หลังสักจะบวมกี่วัน?
A: อาจมีอาการบวมแดงเล็กน้อยบริเวณรอบคิ้วในวันแรกๆ ค่ะ แต่ส่วนใหญ่จะค่อยๆ ยุบลงภายใน 1-3 วัน ถ้าบวมมากผิดปกติควรปรึกษาช่าง
Q6: หลังสักกี่วันถึงจะแต่งหน้าได้ตามปกติ?
A: ควรรอให้คิ้วลอกหมดและแผลแห้งสนิทดีก่อนค่ะ ซึ่งปกติจะใช้เวลาประมาณ 7-14 วัน ในช่วงแรกให้งดการแต่งหน้าบริเวณคิ้วโดยตรง
Q7: สักคิ้วแล้วขนคิ้วจริงจะร่วงไหม?
A: การสักคิ้วที่ถูกวิธีและทำโดยช่างผู้ชำนาญ จะไม่ทำให้ขนคิ้วจริงร่วงค่ะ เพราะเป็นการลงสีในชั้นผิวหนังกำพร้า ไม่ได้ทำลายรากขน
Q8: สามารถเลือกทรงคิ้วและสีคิ้วเองได้ไหม?
A: ได้แน่นอนค่ะ เราสามารถแจ้งความต้องการกับช่างได้เลย และช่างจะช่วยออกแบบผสมผสานกับโหงวเฮ้งและความเหมาะสมกับโครงหน้าของเราค่ะ