สอบถาม/จองคิว
เลือกร้านสักคิ้วยังไง ✔️ให้ปัง ❌ไม่พัง: 7 สิ่งต้องรู้ก่อนทำ
ต้องยอมรับความจริงอยู่อย่างนึงว่า สาวๆ แทบจะทุกคนต้องเคยมีประสบการณ์หายนะด้านความงามไม่มากก็น้อย เช่น วันที่แต่งหน้าได้แย่มากๆ แว็กซ์ขนคิ้วออกมาแบบรับไม่ได้ หรือแม้กระทั่งทรงผมที่ตัดออกมาไม่ได้อย่างใจเลย เป็นต้น
ถึงจะทำเอาสาวๆ อารมณ์เสียไม่ใช่น้อยที่ต้องเผชิญกับเรื่องแบบนี้ แต่ก็ยังดีที่มันแก้ได้ไม่ยาก ผมที่ตัดไปแล้วหรือขนคิ้วที่แว๊กซ์ผิดทรง ทนไปนิดไม่นานขนก็ขึ้น
แต่ถ้าคุณไปสักคิ้วมาแล้วพังล่ะ! อันนี้ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ แน่ๆ เพราะว่ามันจะไม่หายไปง่ายๆ คิ้วพังๆ จะอยู่กับคุณไปสักพักใหญ่ๆ เลยทีเดียว
สำหรับผู้ที่กำลังพิจารณาการสักคิ้วเพื่อความงาม หรือเพื่อเสริมดวงก็ดี เราได้รวบรวมสิ่งที่คุณควรรู้ก่อนตัดสินใจไปสักคิ้วแบบครบจบในโพสต์เดียว ไว้ดังนี้..
1. ข้อมูลต้องแน่น
พยายามรวบรวมหาข้อมูลเกี่ยวกับร้าน และช่างสัก รวมทั้งประเภทการสักคิ้วแบบที่ถูกใจคุณให้ได้มากที่สุด
- ตัวอย่างผลงานไม่ต่ำกว่า 10 ตัวอย่าง – ขอดูตัวอย่างผลงานก่อนและหลังทำ โดยเฉพาะการสักคิ้วสวยธรรมชาติ และงานแก้คิ้ว เพราะว่าสักยาก ช่างต้องมีทักษะ และประสบการณ์จริง งานจึงออกมาดี
- ร้านที่เปิดให้บริการสักคิ้วไม่ต่ำกว่า 5 ปี – โดยทั่วไปร้านที่ยิ่งเปิดมานานยิ่งน่าเชื่อถือ ให้คุณเลือกร้านที่ให้บริการสักคิ้วอย่างต่อเนื่องอย่างน้อย 5 ปี ถ้าจะให้ชัวร์ 10 ปี ขึ้น
“หาข้อมูลให้ได้มากที่สุด : ค้นหาข้อมูล ถามคำถามเกี่ยวกับร้านที่คุณสนใจทั้งกับเพื่อน คนรู้จักที่เคยทำ ถามคำถามในอินเตอร์เน็ต ร้านทีมีความโปร่งใสจะเปิดให้คำปรึกษา ให้คุณไปที่ร้านสอบถามกับช่างสักโดยตรงได้จะดีที่สุด”
2. ราคาถูกมาก ให้ระวัง!
เวลาซื้อของเรามักจะต่อรองราคาเป็นเรื่องปกติ ยิ่งต่อได้ราคาถูกมากเท่าไรยิ่งดี
สำหรับการสักคิ้วก็ไม่ต่างกัน ราคาถูกย่อมดีกว่าแพงแน่นอน
แต่อยากให้คุณควรตั้งคำถามกับตัวคุณเองให้มากกับร้านที่สักคิ้วในราคาที่ถูกกว่าร้านอื่นมากผิดปกติ..
เช่น ถ้าคุณไปเจอร้านสักคิ้ว 999 บาท ในขณะที่ร้านอื่นๆ ที่มีชื่อเสียงเขาสักกัน 5000 บาทขึ้น
ให้คุณลองพิจารณาด้วยใจเป็นกลางว่าราคาต่ำปานนั้น สีสักที่เขาใช้จะเป็นสีอะไร มาจากไหน:
- สีสักคิ้วนำเข้าจากอเมริกา❓ หรือ
- สีสักคิ้วน้ำเข้าจากจีน❓ หรือ
- สีสักตัว❓
จะเป็นไปได้ไหมว่าร้านนี้ใช้สีน้ำเข้าจาก USA + จ่ายค่าแรงช่างที่มีความชำนาญสูง แล้วยังได้กำไร?
3. สัก 2 รอบ ถึงจะสวย
สำหรับคนทั่วไป การสักคิ้วต้องทำ 2 ครั้งโดยเฉลี่ย ถึงจะสวย
ครั้งที่ 2 จะทิ้งระยะจากครั้งแรกประมาณ 4 สัปดาห์ เป็นการมาเก็บงานในบางจุด เช่น จุดที่สีเข้มจางไม่เท่ากัน เป็นต้น
4. คิ้วคือพี่น้อง ไม่ใช่ฝาแฝด
ความจริงมีอยู่ว่า คิ้วคุณทั้ง 2 ข้างไม่เท่ากัน เนื่องจากดวงตาของแต่ละคนไม่เท่ากันจากสันจมูก ดังนั้นจุดเริ่มต้นของคิ้วจึงแตกต่างกันเล็กน้อย
คุณต้องเข้าใจในข้อนี้ จะได้ไม่คาดหวังอะไรผิดไปจากความเป็นจริง เช่นต้องการให้คิ้วสักออกมาสองข้างเท่ากันเป๊ะ
5. ยังไงก็เจ็บ
การสักคิ้วยังไงก็คือการสัก ยังไงก็เจ็บไม่มากก็น้อย สิ่งที่จะช่วยให้คุณเจ็บน้อยลงคือ ประสบการณ์ช่าง – ช่างสักที่มีทักษะและประสบการณ์สูง จะน้ำหนักมือเบา รู้ว่าจุดไหนเบาได้ ไม่จำเป็นต้องใส่เต็มแรงตลอดการสัก
6. สีจะจางลง
หากคุณกลัวว่าคิ้วของคุณจะเข้มเกินไป อย่าตกใจ เมื่อสักเสร็จใหม่ๆ ผิวอยู่ในช่วงฟื้นตัวจะมีสีเข้ม เป็นเรื่องปกติ
- สามวันแรก – คิ้วคุณจะดูเข้มมากที่สุด
- วันที่ 4-5 – สะเก็ดเล็กๆ เริ่มหลุดออก
- วันที่ 7-8 – คุณเริ่มมองเห็นผลลัพธ์ สีจริง ซึ่งโดยเฉลี่ยจะจางกว่าวันแรกประมาณ 50%-75%
7. ไปสักคิ้วหวังได้คิ้วสวย แต่กลับได้คิ้วเสีย ต้องทำอย่างไง…
บางร้านสักคิ้วจะประหยัดต้นทุนโดยการใช้สีสักตัว ก็จะมีการร่างคิ้วก่อนแล้วใช้เข็มจิ้มสีแล้วสักลงไป ถ้าออกมาสวยก็โอเค ถ้าออกมาแล้วดูไม่ดี ทำแล้วหน้าดุบ้างล่ะ สีไม่เท่ากัน สีคิ้วโดดบ้างล่ะ คิ้ว 2 หางก็มี คราวนี้แหละได้ปวดใจกันแน่ ๆ เลยค่ะ
หากคุณหรือคนรู็จักกำลังเดือนเนื้อร้อนใจ ไปสักคิ้วสวยแต่กลับได้คิ้วเสีย แนะนำว่าให้ตั้งสติก่อน อย่าเครียด จากนั้นให้:
- ติดต่อช่างสัก – สิ่งแรกที่ต้องทำคือให้คุณติดต่อช่างที่สัก และแจ้งข้อกังวลใจของคุณ(สีผิด รูปร่างผิด รอยแผลเป็น ฯลฯ)
- สอบถาม – ข่างสักว่าสามารถที่จะแก้ไขสิ่งที่คุณกังวลใจได้หรือไม่ ถ้าไม่ได้สามารถขอเงินคืนได้หรือไม่
- ถามอีก – สอบถามยี่ห้อและสีของหมึกที่ใช้ (ควรใช้เฉดสีน้ำตาลที่แตกต่างกันสำหรับผิวแต่ละประเภท)
- ถ้าช่างสักปัดความรับผิดชอบ หรือคุณไม่มั่นใจอีกต่อไปจะให้ช่างคนนี้แก้ อันนี้เห็นทีต้องเริ่มมองหาร้านที่ให้บริการสักคิ้วที่น่าเชื่อถือ ให้ช่วยแก้ไข
นำคำแนะนำในบทความนี้ไปประยุกต์ใช้ ช่วยในการตัดสินใจ รับรองว่าหาร้านสักคิ้วดีๆ ได้ไม่ยากค่ะ….