สักปากกี่วันลอก? อันตรายไหม? ราคาเท่าไหร่? ตอบทุกข้อสงสัยที่สาวๆ (และหนุ่มๆ) ต้องรู้!

บางคนอาจจะมีปัญหาริมฝีปากคล้ำ ซีด หรือขอบปากไม่ชัดเจน ทำให้ต้องเสียเวลาเติมลิปสติกกันทั้งวัน การสักปากเลยกลายเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจมากๆ ที่จะช่วยให้เรามีสีปากสวยเป็นธรรมชาติ ดูสุขภาพดี เหมือนไม่ได้แต่งหน้า

แต่ก็ยังดูเป๊ะปังได้ตลอดเวลา บทความนี้ได้รวบรวมทุกคำถาม ทุกข้อสงสัยเกี่ยวกับการสักปากมาให้แบบจัดเต็ม อ่านจบแล้วรับรองว่าเคลียร์ทุกประเด็นแน่นอนค่ะ!

สักปากคืออะไร?

เอาแบบเข้าใจง่ายๆ นะคะ การสักปาก ก็คือการใช้เข็มขนาดเล็กมากๆ ค่อยๆ ฝังสีลงไปที่ผิวหนังชั้นนอกของริมฝีปากเราค่ะ คล้ายๆ กับการสักคิ้วหรือสักตัวนั่นแหละค่ะ แต่เทคนิคและสีที่ใช้จะมีความเฉพาะสำหรับริมฝีปากมากกว่า

เปรียบเทียบก่อนหลังสักปาก
Credit: www.youreyesonlyhq.com

สมัยนี้การสักปากจะเน้นความเป็นธรรมชาติ กลมกลืนไปกับสีผิวของเรา ไม่ได้ดูเป็นขอบปากชัดๆ หรือสีทึบๆ เหมือนสมัยก่อน แต่จะเน้นให้ริมฝีปากดูมีสีระเรื่อๆ อมชมพู อมส้ม หรือสีนู้ดๆ แล้วแต่ความชอบเลยค่ะและที่สำคัญคือต้องปลอดภัยด้วยนะคะ

ข้อดี

  • สีปากสวยเป็นธรรมชาติ: ตื่นมาก็ปากสวยเลย ไม่ต้องเสียเวลาทาลิป (ปลอดภัยจากสารตะกั่ว)
  • ประหยัดเวลาแต่งหน้า: ลดขั้นตอนการแต่งหน้าไปได้เยอะ ชีวิตง่ายขึ้น
  • แก้ปัญหาสีปาก: ช่วยแก้ปัญหาริมฝีปากคล้ำ ซีด ขอบปากไม่ชัด ให้ดูสุขภาพดีขึ้น
  • ติดทนนาน: โดยทั่วไปสีจะอยู่ได้นาน 1-3 ปี หรือมากกว่านั้น ขึ้นอยู่กับการดูแลและสภาพผิวของแต่ละคน
  • เสริมโหงวเฮ้ง: ริมฝีปากที่อวบอิ่ม สีสวยสดใส เป็นรูปกระจับ จะช่วยเสริมดวงในเรื่องการพูดจาเจรจาให้มีคนเชื่อถือ มีเสน่ห์เมตตามหานิยม และยังส่งผลดีต่อเรื่องความรักความสัมพันธ์ด้วยนะคะ (อันนี้เป็นความเชื่อส่วนบุคคลนะคะ)

ข้อเสีย

แน่นอนว่าทุกอย่างมีสองด้านเสมอค่ะ ข้อเสียหรือสิ่งที่ต้องพิจารณาก่อนสักปากก็มีบ้าง เช่น:

  • ความรู้สึกระหว่างทำ: ถึงจะมียาชาช่วย แต่ก็อาจจะยังมีความรู้สึกเจ็บบ้างเล็กน้อย
  • ระยะเวลาพักฟื้น: หลังทำต้องมีช่วงดูแลแผล ปากอาจจะบวม ลอก ซึ่งต้องใช้เวลาหน่อย
  • ข้อจำกัดเรื่องอาหารการกิน: ในช่วงแรกๆ อาจจะต้องระวังเรื่องอาหารนิดนึง
  • สีอาจจะไม่สม่ำเสมอในครั้งแรก: บางเคสอาจจะต้องมีการเติมสีเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่สมบูรณ์
  • สีจะจางลงตามกาลเวลา: ไม่ได้อยู่ถาวรตลอดไป ต้องมีการเติมสีใหม่เมื่อเวลาผ่านไป

สักปากแพงไหม ราคาเท่าไร?

โดยทั่วไปแล้ว ราคาการสักปากในตลาดตอนนี้จะอยู่ที่ประมาณ 3,000 บาท ไปจนถึง 15,000 บาท หรืออาจจะสูงกว่านั้น ในบางเคสค่ะราคาของการสักปากจะค่อนข้างหลากหลายค่ะ ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยเลย เช่น

เปรียบเทียบก่อนหลังสักปาก
ก่อน/หลังสักปาก Credit: beautygoldentouch.com
  • ชื่อเสียงและประสบการณ์ของช่าง: ช่างที่มีประสบการณ์สูง มีผลงานเยอะ และเป็นที่รู้จักก็อาจจะมีราคาสูงกว่าค่ะ
  • เทคนิคที่ใช้: บางเทคนิคอาจจะต้องใช้ความละเอียดและเวลามากกว่า ราคาก็อาจจะแตกต่างกันไป
  • คุณภาพของสี: สีที่ใช้ก็มีผลต่อราคาค่ะ สีคุณภาพดีที่นำเข้ามาจากต่างประเทศและได้มาตรฐานก็จะมีราคาสูงกว่า
  • สถานที่ตั้งของร้าน: ร้านที่อยู่ในห้างสรรพสินค้า หรือย่านใจกลางเมืองก็อาจจะมีค่าใช้จ่ายสูงกว่า

ที่ร้านเรา อ.เจน สักให้เอง ราคาบริการสักปากโปรโมชั่นเดือนนี้จะอยู่ที่ 6000 บาท (ปกติ 7000) เติม 1 ครั้ง 1000 บาท

แนะนำว่าให้ลองสอบถามหลายๆ ที่ เปรียบเทียบราคาและผลงานก่อนตัดสินใจนะคะ อย่าเลือกที่ราคาถูกที่สุดเพียงอย่างเดียว แต่ให้คำนึงถึงความสะอาด ความปลอดภัย และความเชี่ยวชาญของช่างเป็นหลักค่ะ

อันตรายไหม มีผลข้างเคียงอะไร?

การสักปากจะปลอดภัยและมีความเสี่ยงน้อยมาก หากทำโดยช่างผู้เชี่ยวชาญ ใช้เครื่องมือและสีที่สะอาด ได้มาตรฐาน และมีการดูแลหลังสักที่ถูกต้องค่ะ อย่างไรก็ตาม ความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นได้ (แม้จะน้อยมาก) ก็คือ:

  • การติดเชื้อ: หากอุปกรณ์ไม่สะอาด หรือดูแลแผลไม่ดีพอ
  • อาการแพ้สี: บางคนอาจมีอาการแพ้สีที่ใช้สักได้ (ซึ่งพบได้น้อยมากถ้าใช้สีคุณภาพดี)
  • แผลเป็น: หากมีการแกะเกาแผล หรือผิวเป็นแผลเป็นง่ายอยู่แล้ว
  • สีไม่สม่ำเสมอ หรือสีเพี้ยน: อาจเกิดจากเทคนิคของช่าง หรือการดูแลตัวเองที่ไม่ถูกต้อง

ผลข้างเคียงทั่วไปที่อาจพบได้หลังสักก็คือ อาการบวม แดง รู้สึกตึงๆ หรือคันเล็กน้อย ซึ่งอาการเหล่านี้จะค่อยๆ หายไปเองภายในไม่กี่วันค่ะ สิ่งสำคัญที่สุดคือ การเลือกร้านและช่างที่มีความน่าเชื่อถือ สะอาด ปลอดภัย และมีประสบการณ์ นะคะ อย่าเห็นแก่ของถูกจนเสี่ยงกับผลลัพธ์ที่ไม่พึงประสงค์ค่ะ

สักแล้วมีโอกาสเป็นเริมไหม?

สำหรับคนที่มีเชื้อไวรัสเริม (Herpes Simplex Virus) อยู่ในร่างกาย (ซึ่งหลายคนมีโดยไม่รู้ตัว) การสักปากอาจจะเป็นการกระตุ้นให้เริมแสดงอาการขึ้นมาได้ค่ะ ไม่ได้หมายความว่าการสักปากทำให้ติดเชื้อเริมนะคะ

แต่เป็นการปลุกเชื้อที่ซ่อนอยู่ในตัวเราขึ้นมา หากคุณเคยเป็นเริมที่ริมฝีปากบ่อยๆ ควรแจ้งช่างให้ทราบก่อน และอาจจะต้องปรึกษาแพทย์เพื่อทานยาป้องกันเริมก่อนและหลังสักค่ะ

เจ็บไหม?

ขอตอบตามตรงว่าความรู้สึกเจ็บของแต่ละคนไม่เท่ากันนะคะ บางคนอาจจะรู้สึกแค่เจ็บจี๊ดๆ เหมือนมดกัด แต่บางคนก็อาจจะรู้สึกเจ็บมากกว่านั้น แต่ไม่ต้องกังวลไปค่ะ!

รีวิวสักปาก

ก่อนเริ่มทำการสัก ช่างจะทายาชาเฉพาะที่ให้ก่อนเสมอ ยาชาจะช่วยลดความรู้สึกเจ็บไปได้เยอะมากๆๆๆ เลยค่ะ ระหว่างทำอาจจะรู้สึกตึงๆ หรือมีการสั่นสะเทือนเบาๆ จากเครื่องมือ

ลูกค้าส่วนใหญ่จะบอกว่าทนได้สบายมากค่ะ สิ่งสำคัญคือทำใจให้สบาย ไม่เกร็ง และถ้าเริ่มรู้สึกเจ็บมากก็สามารถแจ้งช่างได้ตลอดเลยนะคะ

กี่ชั่วโมงเสร็จ?

ระยะเวลาในการสักปากแต่ละครั้งจะอยู่ที่ประมาณ 2-4 ชั่วโมง ค่ะ โดยจะรวมเวลาตั้งแต่การพูดคุยปรึกษาเรื่องสีและทรงปาก

การออกแบบวาดทรงปาก การทายาชา (ซึ่งจะใช้เวลาประมาณ 20-40 นาทีเพื่อให้ยาชาออกฤทธิ์เต็มที่) และขั้นตอนการลงมือสักจริงๆ ค่ะ

กี่วันลอก?

โดยทั่วไปแล้ว หลังสักปากไปประมาณ 3-7 วัน ผิวหนังบริเวณริมฝีปากจะเริ่มแห้งและค่อยๆ ลอกออกมาเป็นแผ่นบางๆ หรือเป็นขุยๆ ค่ะ

รีวิวสักปากชมพู

ห้ามแกะ เกา หรือดึงหนังที่ลอกออกมาเด็ดขาดนะคะ! ปล่อยให้มันลอกออกไปเองตามธรรมชาติค่ะ ถ้าไปแกะอาจจะทำให้สีหลุดไม่สม่ำเสมอ หรือเกิดแผลเป็นได้ค่ะ ช่วงที่ลอกสีอาจจะดูจางลงไปบ้าง หรือดูไม่สม่ำเสมอ ก็ไม่ต้องกังวลนะคะ เพราะสีจะค่อยๆ ชัดขึ้นและเข้าที่เข้าทางเองค่ะ

การฟืันตัวของสีหลังสัก 30 วัน

โดยทั่วไปหลักสักปากจะลอก และแผลจะค่อยๆ สมานใน 2-3 สัปดาห์ ระหว่างนี้สีและลักษณะของริมฝีปากจะเปลี่ยนไป ตามภาพด้านล่าง

ระยะการฟื้นตัวหลังสักปาก
“หลังสักวันที่ 1-59” Credit: The Baller On A Budget/Pinterest

วันที่ 1-3: การดูแลหลังการรักษาทันที

ริมฝีปากของคุณอาจจะดูหนาและบวม อาการบวมหลังสักปากเป็นเรื่องปกติค่ะ ส่วนใหญ่จะบวมประมาณ 1-3 วันแรก หลังจากนั้นอาการบวมจะค่อยๆ ลดลงจนหายเป็นปกติภายใน 5-7 วันค่ะ สามารถประคบเย็นเบาๆ เพื่อช่วยลดอาการบวมได้นะคะ

วันที่ 3-7: ปากลอกครั้งแรก

บริเวณที่สักจะลอกหรือหลุดลอก ซึ่งเป็นเรื่องปกติในระหว่างกระบวนการสมานตัว สีอาจดูหยาบหรือจางลงเนื่องจากการหลุดร่วงของผิวหนังกำพร้า

วันที่ 8-14: สีเริ่มอยู่ตัว

ถึงตอนนี้การหลุดลอกในช่วงแรกควรจะลดลง และริมฝีปากของคุณจะเริ่มดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น สีอาจดูซีดจางเล็กน้อย แต่ไม่ต้องกังวล และสีจะค่อยๆ เข้มขึ้นในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า

วันที่ 15-21: สีเริ่มปรับตัว และสวยขึ้น

ประมาณสัปดาห์ที่ 3 คุณจะสังเกตเห็นว่าสีปากมีความสดใสมากขึ้นเมื่อชั้นหนังกำพร้าของผิวหนังสมานตัวและกักเก็บเม็ดสีไว้ใต้ ริมฝีปากของคุณจะดูอวบอิ่มและชัดเจนยิ่งขึ้นเมื่อรอยสักซึมเข้าสู่ผิวหนัง

วันที่ 22-28: ผลลัพธ์สุดท้าย

หลังจากปากลอกหมดแล้ว สีอาจจะยังดูจางๆ หรือไม่สม่ำเสมอ ไม่ต้องตกใจนะคะ เพราะเซลล์ผิวต้องใช้เวลาในการผลัดตัวและดันสีขึ้นมาค่ะ สีปากจะค่อยๆ ชัดเจนขึ้นและดูเข้าที่เข้าทางมากขึ้นเรื่อยๆ โดยจะเห็นสีที่แท้จริงและสวยงามเต็มที่ประมาณ 4-8 สัปดาห์หลังสัก ค่ะ

กินอะไรได้บ้าง? ห้ามอะไร?

  • สิ่งที่ควรกิน: ในช่วง 2-3 วันแรก ควรทานอาหารอ่อนๆ รสไม่จัด เช่น ข้าวต้ม โจ๊ก หรืออาหารที่ไม่ต้องเคี้ยวเยอะ เพื่อลดการกระทบกระเทือนริมฝีปากค่ะ ดื่มน้ำเยอะๆ โดยใช้หลอดดูดก็ช่วยได้ค่ะ
  • สิ่งที่ควรเลี่ยง: ควรงดอาหารรสจัด เผ็ดร้อน ของหมักดอง อาหารทะเล (สำหรับบางคนที่แพ้ง่าย) และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ประมาณ 1-2 สัปดาห์ หรือจนกว่าแผลจะหายดีค่ะ เพราะอาหารเหล่านี้อาจทำให้เกิดการระคายเคือง แผลอักเสบ หรือบวมนานขึ้นได้ค่ะ

โดนน้ำได้ไหม?

ในช่วง 3-5 วันแรกหลังสัก พยายามอย่าให้ริมฝีปากโดนน้ำโดยตรงค่ะ เวลาล้างหน้าก็ให้ใช้ทิชชู่เปียกหรือสำลีเช็ดเบาๆ แทนการวักน้ำล้างหน้า

รีวิวลูกค้าสักปาก

ส่วนการแปรงฟันก็ให้ทำด้วยความระมัดระวัง อย่าให้ยาสีฟันไปโดนบริเวณที่สักมากนักค่ะ หลังจากนั้นก็สามารถโดนน้ำได้ตามปกติ แต่ก็ยังควรซับให้แห้งเบาๆ ทุกครั้งค่ะ

ทาลิปได้ตอนไหน?

ควรงดทาลิปสติก ลิปกลอส หรือลิปบาล์มที่มีสี อย่างน้อย 1-2 สัปดาห์ หรือจนกว่าปากจะลอกหมดและแผลหายสนิทดีค่ะ ระหว่างนี้ให้ใช้ยาหรือวาสลีนที่ช่างแนะนำทาบางๆ เพื่อช่วยให้ความชุ่มชื้นและสมานแผลค่ะ

สีอะไรบ้างที่คนนิยมทำ?

เรื่องสีนี่แล้วแต่ความชอบส่วนบุคคลเลยค่ะ แต่สีที่ฮิตๆ และสาวๆ นิยมทำกันก็จะเป็นโทนสีที่ดูเป็นธรรมชาติ เช่น

เฉดสีต่างๆ สำหรับสักปาก
Credit: www.blackbloom.studio
  • สีชมพูระเรื่อ: ให้ลุคหวานๆ ดูสุขภาพดีเหมือนปากเด็กน้อย
  • สีส้มอมชมพู (Coral Pink): เป็นสีที่ช่วยให้ใบหน้าดูสดใส สว่างขึ้น เหมาะกับสาวไทยหลายๆ คนค่ะ
  • สีนู้ด: สำหรับคนที่อยากให้ปากดูมีขอบชัดขึ้น หรือแก้ปัญหาสีปากไม่สม่ำเสมอ แต่ไม่อยากให้มีสีสันจัดจ้าน
  • สีแดงระเรื่อ: ให้ลุคเซ็กซี่เบาๆ ดูมีชีวิตชีวา

ช่างที่มีประสบการณ์จะช่วยแนะนำสีที่เหมาะสมกับสีผิวเดิมของเรา และไลฟ์สไตล์ของเราได้ค่ะ บางคนอาจจะอยากได้สีที่ดูธรรมชาติมากๆ เหมือนไม่ได้ทำ บางคนอาจจะอยากได้สีที่ชัดขึ้นมาหน่อย เวลาไม่แต่งหน้าก็ยังดูสวยอยู่ คุยกับช่างให้เคลียร์ถึงความต้องการของเรานะคะ

ผู้ชายทำได้ไหม?

แน่นอนค่ะ! ผู้ชายก็สักปากได้นะคะ สมัยนี้ผู้ชายก็หันมาดูแลตัวเองกันเยอะขึ้น การสักปากในผู้ชายก็เริ่มเป็นที่นิยมมากขึ้นเรื่อยๆ ค่ะ ส่วนใหญ่คุณผู้ชายจะเน้นการสักเพื่อให้สีปากดูสุขภาพดีขึ้น แก้ปัญหาริมฝีปากคล้ำจากบุหรี่

รีวิว : สักปากผู้ชาย
Credit: Instagram @_savannahmarienyc

หรือซีดเซียว ให้ดูมีสีระเรื่อๆ เป็นธรรมชาติ ไม่ได้เน้นสีสันฉูดฉาดเหมือนผู้หญิงค่ะ การสักปากช่วยเสริมบุคลิกให้ดูดีขึ้นได้มากเลยทีเดียว

สีไม่ติด ทำยังไง?

สาเหตุที่สีไม่ติดอาจจะมาจากหลายปัจจัย เช่น สภาพผิวมันมาก การดูแลหลังสักที่ไม่ถูกต้อง (เช่น ปล่อยให้ปากแห้งเกินไป หรือแกะเกาแผล) หรือแม้แต่เทคนิคการลงสีในครั้งแรก

หากพบว่าสีไม่ติดหรือจางมากหลังจากการสักครั้งแรก การกลับไปเติมสี (touch-up) คือวิธีแก้ไขที่ดีที่สุดค่ะ ช่างจะประเมินและเติมสีให้เหมาะสมค่ะ

สักปากแล้วปากดำ ทำไง?

หลังสักปากในช่วงที่แผลกำลังจะลอก หรือเพิ่งลอกใหม่ๆ บางคนอาจจะรู้สึกว่าปากดูคล้ำลงกว่าเดิมได้ค่ะ ซึ่งอาจเกิดจากกระบวนการสมานแผลของผิวหนัง (Post-Inflammatory Hyperpigmentation) หรือเป็นสีของสะเก็ดแผลที่ยังหลงเหลืออยู่

รีวิว : แก้ปากดำด้วยสักปากชมพู
Credit: Instagram @permanentmakeup_academy_ke

โดยปกติแล้ว เมื่อผิวหนังเข้าที่ สีปากจะค่อยๆ สว่างขึ้นและเป็นสีตามที่เราสักค่ะ แต่ถ้าผ่านไป 2-3 เดือนแล้วยังรู้สึกว่าปากดำคล้ำผิดปกติ ควรกลับไปปรึกษาช่างหรือแพทย์ผิวหนังค่ะ

การเตรียมตัวให้พร้อมก่อนสัก

ก่อนจะไปสักปาก มีข้อควรปฏิบัติเล็กน้อยเพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาดีที่สุดค่ะ

  • รับประทานอาหาร: กระบวนการสักปากตั้งแต่ต้นจนจะใช้เวลาประมาณ 1-2 ชั่วโมง คุณควรรับประทานอาหารให้อิ่มอย่าปล่อยให้ท้องว่าง
  • งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และยาบางชนิด: ควรงดดื่มแอลกอฮอล์อย่างน้อย 24 ชั่วโมงก่อนสัก และหากทานยาละลายลิ่มเลือด หรือวิตามินที่ทำให้เลือดออกง่าย เช่น วิตามินอี น้ำมันตับปลา ควรแจ้งให้ช่างทราบและปรึกษาแพทย์ก่อนค่ะ
  • ถ้ามีแผนที่จะไปฉีดฟิลเลอร์ปาก: ควรมาสักก่อน ไม่อย่างนั้นเมื่อริมฝีปากหดตัวและกลับสู่ขนาดปกติ แนวริมฝีปากผิดเพี้ยนไปไม่ดูธรรมชาติ
  • รักษาริมฝีปากให้ชุ่มชื้น: ดื่มน้ำอย่างน้อย 8-10 แก้วต่อวันจะช่วยให้ริมฝีปากคงความชุ่มชื้น ลิปสติกมักจะทำให้ริมฝีปากแห้ง ดังนั้นควรงดเป็นเวลา 72 ชม. ก่อนสัก ให้ใช้ลิปบาล์มที่ให้ความชุ่มชื้น แทน!
  • งดสครับปาก: ก่อนวันสักประมาณ 1 สัปดาห์ ควรงดการสครับหรือขัดลอกริมฝีปากค่ะ
  • พักผ่อนให้เพียงพอ: คืนก่อนวันสักควรนอนหลับให้เต็มที่นะคะ
  • บำรุงริมฝีปาก: ก่อนวันนัดสัก 3-7 วัน ควรทาลิปบาล์มบำรุงริมฝีปากให้ชุ่มชื้นสม่ำเสมอ ไม่ควรให้ปากแห้งแตกเป็นขุย เพราะจะทำให้สีติดยากและแผลหายช้าค่

ขั้นตอนการสักปาก

เมื่อถึงวันนัด ขั้นตอนหลักๆ ก็จะเป็นประมาณนี้ค่ะ

  1. ก่อนลงมือสักช่างส่วนใหญ่จะอธิบายกระบวนการทีละขั้นตอนให้คุณทราบ ถ้าคุณมีคำถามในขั้นนี้ก็ถามให้เคลียร์จะได้เข้าใจตรงกัน
  2. ต่อไปก็จะเป็นการเลือกสี ช่างจะแนะนำสีสักที่เหมาะกับสีผิวในขั้นนี้คุณปรึกษากับช่างจนได้สีที่ลงตัว ตรงใจ
  3. ออกแบบวาดรูปทรง บนริมฝีปากให้ดูก่อน เมื่อลูกค้าพอใจแล้ว ถึงลงมือสักจริง
  4. ทายาทาเฉพาะที่เป็นเวลา 20 นาที
  5. ลงมือสัก ลงสีสักแบบไล่เฉดเพื่อให้ได้สีที่คุณต้องการและออกมาแลดูสวยธรรมชาติ
  6. โดยส่วนใหญ่แล้วการสักปากมักจะต้องมีการกลับไปเติมสีอีกครั้ง (touch-up) หลังจากสักครั้งแรกไปประมาณ 1-3 เดือน เพื่อเก็บรายละเอียด เพิ่มความคมชัดของสี หรือปรับแก้ในส่วนที่สีอาจจะติดไม่สม่ำเสมอ ซึ่งการเติมสีนี้จะช่วยให้ผลลัพธ์สวยสมบูรณ์และติดทนนานยิ่งขึ้นค่ะ

วิธีดูแลตัวเองหลังสัก

  1. รอยสักใหม่เหมือนเหมือนทำแผลเปิด ป้องกันไม่ให้ปากแห้งจนเกินไปด้วยการทาบาล์ม แต่ก็ระวังอย่าทาจนให้ชุ่มเกิน
  2. ไม่เอามือสกปรกไปสัมผัสปาก
  3. ล้างริมฝีปากก่อนนอนด้วยน้ำอุ่นและสบู่
  4. ห้ามทาลิปสติกใดๆ เป็นเวลา 1 สัปดาห์
  5. ห้ามแคะ แกะ เกาแม้ปากจะเป็นขุย
  6. ปากแห้งก็พยายามอย่าเลีย
  7. งดอาหารรสเผ็ดในช่วง 24 ชั่วโมงแรก
  8. งดกิจกรรมที่ทำให้เหงื่อออกมากเป็นเวลา 5 วัน
  9. งดว่ายน้ำ แช่ในอ่างน้ำร้อน หรือแหล่งน้ำอื่นๆ เป็นเวลา 5 วัน
  10. ระวังรังสียูวี (รวมถึงตู้อบผิวสีแทน) อย่าโดนแดดแรงเป็นเวลา 5 วัน
  11. งดใช้สารขัดผิว กรดเรตินอล กรดไกลโคลิก หรือกรดอัลฟ่าไฮดรอกซีในบริเวณสัก เป็นเวลา 30 วัน สิ่งเหล่านี้ทำให้สีซีดจาง
  12. งดการนวด บำรุงผิวหน้า หรือทรีทเมนท์ผิวเป็นเวลา 5 วัน

สรุปส่งท้าย

การสักปากเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับคนที่อยากมีริมฝีปากสีสวย ดูสุขภาพดี โดยไม่ต้องคอยเติมลิปสติกบ่อยๆ นะคะ ไม่ว่าจะเป็นสาวๆ หรือหนุ่มๆ ก็สามารถทำได้ค่ะ ข้อดีมีมากมาย แต่ก็มีข้อควรระวังและสิ่งที่ต้องพิจารณาก่อนตัดสินใจเช่นกัน

หากสาวๆ หรือหนุ่มๆ ท่านไหนยังมีข้อสงสัยเพิ่มเติม หรืออยากปรึกษาเรื่องการสักปาก รวมถึงบริการอื่นๆ เช่น สักคิ้วสีฝุ่น สักคิ้ว ombre สักคิ้วโหงวเฮ้ง หรือแม้แต่การ lash lift ที่ร้าน อ.หญิง บิวตี้ (ยูเนี่ยนมอลล์) เรายินดีให้คำปรึกษาและบริการด้วยใจค่ะ

แชร์โพสต์
อ.เจน
อ.เจน

อาจารย์เจนสั่งสมประสบการณ์จริงในการสักคิ้ว/ปาก มากกว่า 15+ ปี จนได้รับความไว้วางใจให้เป็นช่างสักมือ 1 ของร้าน รับราชการเป็นพยาบาลวิชาชีพที่โรงพยาบาลของรัฐทั้งในไทย และประเทศแคนาดา ได้นำความรู้เรื่องสุขอนามัย มาประยุกต์ใช้กับ การสักปาก, สักคิ้ว และบริการอื่นๆ ของที่ร้านได้อย่างลงตัว เครื่องมือเครื่องไม้ที่ทางร้านใช้เน้นความสะอาด ปลอดภัยตามมาตรฐานสากล