สักคิ้ว 5 แบบ – สไตล์ไหนใช่เลยสำหรับผิวคุณ

ถ้าคุณกำลังเบื่อกับการเสียเวลานานๆ ทุกเช้าไปกับความพยายามที่จะเขียนคิ้วให้สวยแล้วละก็ สละเวลาสัก 2 นาที เปิดใจอ่านโพสต์นี้เรา จะมาเปิดเผยการสักคิ้ว 5 แบบ ที่กำลังมาแรงขณะนี้ เผยรายละเอียดว่าแต่ละเทคนิคดีด้อยต่างกันอย่างไร และยังสอนวิธีเลือกสักคิ้วง่ายๆ สไตล์คุณ

นอกจากนี้ก็จะพูดถึงกระบวนการสมานแผลและการดูแลหลังสักคิ้วเพื่อให้แน่ใจว่าผลลัพธ์จะสดใสสวยงามและอยู่กับคุณไปนานๆ

5 ประเภทสักคิ้วยอดนิยม

เทคนิคการสักคิ้วแต่ละแบบมีความสวยงามที่แตกต่างกัน ขึ้นความต้องการของคนที่แตกต่างกัน เช่น คิ้วสีฝุ่นหรือคิ้วแบบออมเบร ช่วยสร้างลุคที่ดูนุ่มนวลและใช้เทคนิคการเติมสีด้วยการไล่ระดับ ไล่เฉด

ในทางกลับกัน ไมโครเบลดจะเลียนแบบเส้นขนตามธรรมชาติเพื่อให้ดูสมจริง ส่วนคิ้วนาโนเป็นเทคนิคใหม่ที่ใช้เข็มละเอียดยิ่งขึ้นเพื่อผลลัพธ์ที่แม่นยำ

และสักคิ้วแบบผสมจะผสมผสานเทคนิคไมโครเบลดและการไล่เฉดเงาเพื่อให้ได้ลุคที่เป็นธรรมชาติแต่ชัดเจนสมจริง

infographic เลือกวิธีสักคิ้ว

ดังนั้น การเลือกชนิดสักคิ้วที่เหมาะกับผลลัพธ์ที่คุณต้องการมากที่สุดจึงเป็นเรื่องสำคัญ

เรามาเจาะลึกแต่ละประเภทของการสักคิ้วกึ่งถาวร กันเลยดีกว่า

1. สักคิ้วสีฝุ่น (Powder Brows )

คิ้วสีฝุ่นเป็นการสักแบบกึ่งถาวรใช้เทคนิคการแทรกเม็ดสีลงในชั้นบนสุดของผิวโดยใช้เครื่องสัก

ตัวอย่างสักคิ้วสีฝุ่น
Image source: Instagram @moniqueblasques_craftmaster

เทคนิคนี้เรียกอีกอย่างว่าเทคนิคการแต้มจุดหรือพิกเซลไลเซชัน เพื่อสร้างเอฟเฟกต์คิ้วราวกับทาแป้งฝุ่น ฟุ้งๆ ปุกปุย

จุดเด่นของคิ้วสีฝุ่น

คูณลักษณะสำคัญ:

  • การฟื้นตัว: กระบวนการฟืันตัวและสมานแผลหลังสัก อาจทำให้เกิดอาการแพ้และคันได้ อาการบวมและปวดเกิดขึ้นได้เช่นกัน
  • การดูแลหลังสัก: ทาครีมที่ช่างสักจัดเตรียมไว้ให้ ทาได้บ่อยๆ และหลีกเลี่ยงการสัมผัสบริเวณที่สักด้วยมือหรือสิ่งที่ไม่สะอาด ทำความสะอาดบริเวณแผลเบาๆ ด้วยสบู่ต้านเชื้อแบคทีเรียสูตรอ่อนโยน และหลีกเลี่ยงการแต่งหน้า, การทำให้เหงื่อออก, โดนแสงแดดจนกว่าจะหายสนิท
  • ความคงทน: คิ้วสีฝุ่นสามารถอยู่ได้ 2-3 ปี แนะนำให้เติมทุกปีเพื่อความสวยงามไร้ที่ติ

2. สักคิ้วออมเบร (Ombre Brows)

Ombré เป็นคำภาษาฝรั่งเศษแปลว่าการไล่เฉด ฉนั้นสักคิ้วแบบออมเบรจะใช้เทคนิคการแรเงาไล่เฉดสีวางเม็ดสีบางๆ ลงบนผิวหนังจากอ่อนไปเข้ม

ตัวอย่างคิ้วออมเบร
Image source: Instagram @dollfacepmu

ผลที่ออกมาจะดูคล้ายๆ การใช้ดินสอเขียนคิ้ว

จุดเด่นของการสักคิ้ว ombre

การสักคิ้วแบบออมเบรมีประโยชน์หลายประการเมื่อเทียบกับการสักคิ้วสไตล์อื่นๆ

เหมาะสำหรับผิวมันหรือผิวแพ้ง่าย – การแรเงาแบบออมเบรนั้นต่างจากไมโครเบลดตรงที่การสักจุดเล็กๆ แทนการสักลายเส้นขนสั้นๆ ทำให้เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่มีผิวมัน

คิ้วแบบออมเบรช่วยให้คิ้วดูหนาขึ้น ชัดเจนขึ้น สามารถปรับแต่งได้ในแง่ของความหนาแน่น

3. ไมโครเบลด – Microblading

Microblading เป็นอีกหนึ่งการสักยอดนิยม จะใช้เทคนิคฝังเม็ดสีเข้าสู่ผิวหนังโดยใช้ใบมีดขนาดเล็ก ลายเส้นจะถูกสร้างขึ้นในทิศทางเดียวกันกับเส้นขนตามธรรมชาติ

ตัวอย่างคิ้วไมโครเบลด
Image source:www.kendranealstudio.com

ช่างสามารถปรับความหนาและรูปร่างของลายเส้นได้ เพื่อทำให้คิ้วของคุณดูสวยเป็นธรรมชาติ

รูป info-graphic จุดเด่นการสักคิ้ว microblading

คูณลักษณะสำคัญ:

  • การดูแลหลังสัก: หลังสัก คุณจะต้องรักษาแผลให้สะอาด หลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์แต่งหน้าและผลิตภัณฑ์บำรุงผิว หลีกเลี่ยงแสงแดดก็เป็นสิ่งสำคัญเพื่อป้องกันสีซีดจางเร็ว
  • การเติมสี: โดยทั่วไปสักแบบไมโครเบลดจะอยู่ได้ 1-1.5 ปี ดังนั้นแนะนำให้คอยมาเติมหลังจาก 1 ปี หรือ ปีครึ่ง เพื่อรักษาสีและรูปทรงที่ต้องการ

สำหรับคนที่คิ้วบางคิ้วน้อยสักแล้วสามารถทำให้คิ้วที่ดูคมชัดและดูสมบูรณ์ขึนได้ แต่อาจดูไม่เป็นธรรมชาติเท่าไรสำหรับผู้ที่ไม่มีคิ้วเลย แต่ก็สามารถเพิ่มการแรเงาเข้าไปได้เพื่อทำให้ช่องว่างระหว่างลายเส้นมองเห็นได้น้อยลงเส้น

Microblading เทียบกับ Ombre Brows: คิ้วออมเบรจะมีเนื้อสัมผัสที่นุ่มนวลและฟุ้ง แต่ไมโครเบลดจะให้รูปลักษณ์ที่เหมือนเส้นผมสมจริงมากกว่า ไมโครเบลดจะสร้างลายเส้นตามขนคิ้ว ในขณะที่คิ้วแบบออมเบรจะดูมีมิติและเฉดสีมากขึ้น

4. สักคิ้วนาโน (Nano Brows)

คิ้วนาโนเป็นการสักคิ้วเพื่อเสริมความงามที่ช่วยเพิ่มเส้นขนเล็กๆ ระหว่างเส้นขนตามธรรมชาติ

ตัวอย่างคิ้วนาโน
Image source: www.lunarcosmetictattoo.com

เทคนิคนี้ใช้เครื่องสักในการเติมเม็ดสีลงในชั้นหนังแท้ ส่งผลให้ได้รูปลักษณ์ที่ออกดูเหมือนขนจริงเป็นธรรมชาติ

จุดเด่นของ nano

คูณลักษณะสำคัญ:

คนผิวมันสักได้ แต่จะเหมาะกับคนผิวแห้งและผิวธรรมดามากกว่า

  • การฟื้นตัว: หลังสักอาจมีรอยแดง และอาการบวม ซึ่งจะทุเลาลงเมื่อเวลาผ่านไป
  • การดูแลหลังสัก: สิ่งสำคัญคือต้องหลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์แต่งหน้าและผลิตภัณฑ์ดูแลผิวบริเวณคิ้วจนกว่าจะลอก ซึ่งจะใช้เวลาประมาณ 2 สัปดาห์

ข้อห้ามบางประการสำหรับการสักคิ้วแบบนาโน: เช่น คนที่เป็นโรคเบาหวาน โรคเลือดออกผิดปกติ ทำโบท็อกซ์หรือฟิลเลอรมาใหม่ๆ ผู้หญิงตั้งครรภ์หรือกำลังให้นมบุตร และคนที่มีอาการระคายเคืองผิวหนัง เช่น โรคสะเก็ดเงินใกล้บริเวณที่ทำ

5. สักคิ้วลายเส้นผสมสีฝุ่น – Combo

การสักคิ้วแบบผสมหรือที่เรียกว่าคิ้วแบบผสม (Combo/Hybrid)

ตัวอย่างคิ้วแบบผสม
Image source: aunleepmu.com

เป็นการผสมผสานระหว่างเทคนิคไมโครเบลดและการแรเงาไล่เฉดสีแบบไมโครเชดดิ้ง จะทำให้คิ้วดูเป็นธรรมชาติพร้อมเอฟเฟกต์แบบแป้งฝุ่น ฟุ้งๆ ด้วย

จุดเด่นคิ้วแบบ combo

คูณลักษณะสำคัญ:

  • การปกปิดรอยแผลเป็น: การสักแบบผสมเป็นทางเลือกที่ดีเยี่ยมในการปกปิดรอยสักคิ้วเก่า รวมถึงรอยแผลเป็น เนื่องจากเป็นการให้แสงเงาที่ช่วยอำพรางจุดบกพร่อง
  • ลบรอยสักคิ้ว: สามารถลบคิ้วคอมโบออกได้หากต้องการ ด้วยวิธีการต่างๆ เช่น เลเซอร์ น้ำเกลือ และกรดไกลโคลิก เป็นต้น

คิ้ว Combo เทียบกับ Microblading: คิ้วคอมโบรวมสักลายเส้นน้อยกว่าและให้รูปลักษณ์ที่นุ่มนวลและฟูๆ สวยและสมจริงมากกว่า เมื่อเทียบกับไมโครเบลดเพียงอย่างเดียว

พูดง่ายๆ สักคิ้วด้วยเทคนิคนี้จะรวมข้อดีของทั้งเทคนิคไมโครเบลดและการแรเงาเข้าด้วยกัน ทำให้ี้เป็นตัวเลือกยอดนิยมสำหรับผู้ที่มองหาคิ้วที่ดูเป็นธรรมชาติและติดทนนาน

เลือกสักคิ้วให้เหมาะกับผิวคุณ

การเลือกเทคนิคการสักให้เหมาะสมกับชนิดของผิวเป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ออกมาสวยงาม และอยู่นานๆ สักคิ้วแบบไหนที่เหมาะกับสภาพผิวของคุณมากที่สุด? เราได้สรุปรายละเอียดให้ดูง่ายๆ ไว้ดังนี้

infographic-สักคิ้วกับสภาพผิว
  • ผิวแห้ง: Microblading, Nano Brows, Powder Brows, Ombre Brows
  • ผิวมัน: Combo Brows, Powder Brows, Ombre Brows
  • ผิวธรรมดา: Powder Brows, Combo Brows, Nano Brows, Ombre Brows
  • ผิวสำหรับผู้ใหญ่: Powder Brows, Ombre Brows

สำหรับผู้ที่มีผิวแห้ง ไมโครเบลดจะให้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ ผิวมันจะได้รับประโยชน์จากคิ้วแบบคอมโบและคิ้วแบบแป้งฝุ่นซึ่งคงสภาพที่ดีเยี่ยม ผิวธรรมดามีตัวเลือกหลายอย่างรวมถึงคิ้วแบบสีฝุ่น ในขณะที่ท่านที่มีอายุห่นอยคิ้วแบบฝุ่นและแบบออมเบรมีความเหมาะสมที่สุด

ข้อดี/ข้อเสียของการสักคิ้ว

การสักคิ้วเป็นงานฝีมือที่ต้องใช้ทักษะประสบการณ์และอุปกรณ์ที่ทันสมัย ปลอดภัย เพราะคิ้วคู่ใหม่จะอยู่บนใบหน้าของเราไปอย่างน้อย 1 ปี ดังนั้นก่อนตัดสินใจทำควรมารู้จักกับข้อดี และข้อเสียของการทำคิ้วก่อนดีกว่าค่ะ

ข้อดีข้อเสีย
ใบหน้าสวยขึ้น: เพราะคิ้วสวยได้รูปทรงจะเป็นกรอบของใบหน้าให้ดูชัดเจนเด่นใบหน้าดูเรียวสวยขึ้นคิ้วจะติดอยู่กับเราไปอีก 2-3 ปี ถ้าหากอยากเปลี่ยนทรงคิ้วใหม่ ก็ต้องมาทำใหม่ทับของเก่า หรือทำเพิ่มเติม หรือลบคิ้ว ดังนั้นก่อนทำให้ช่างออกแบบให้ ดูหลายๆ ครั้ง หลายๆ มุม ให้มั่นใจว่าเราชอบทรงนั้นจริงๆ
ประหยัดเวลา: เพราะการเขียนคิ้วต้องใช้เวลานานดังนั้นเมื่อมีคิ้วที่สวยแล้วก็ไม่ต้องเสียเวลาเขียนคิ้ว นานๆ หน้ากะจก ทุกเช้าความคงทนของเส้น และสีขึ้นอยู่กับสภาพความหนาบางของผิว และ ความมันของผิวของแต่ละคน ส่วนใหญ่ ผิวแห้งจะอยู่ได้นานกว่าผิวมัน
** ผิวมันทำยากกว่า สีติดยากกว่า แต่สำหรับคนผิวมัน รูขุมขนน้อย
ไม่ต้องแต่งหน้ามาก: เพราะเมื่อมีคิ้วที่สวยเข้มเพียงแต่หน้าเบาๆก็ถือว่าเอาอยู่แล้วหรือบางคนอาจไม่ต้องแต่งหน้าเลยก็ได้
ไม่เจ็บหรืออักเสบ: หลังเสร็จจากการสักหรือสไลด์คิ้วแล้วก็สามารถไปทำกิจกรรมต่างๆ ได้ปกติ
แก้ข้อบกพร่องของคิ้วได้: เช่น คิ้วบาง คิ้วแหว่งจากการ ถูกกัน แผลเป็น คิ้วสั้น หรือหางคิ้วตก
ปรับโหงวเฮ้ง: เพราะคิ้วที่ดีต้องมีลักษณะที่สวยงาม ตามหลักโหวงเฮ้ง
สีติดทน: สีจะไม่เพี้ยนเป็นสีเขียวเมื่อนานวันเหมือนการ สักคิ้วสมัยก่อน

เตรียมตัวก่อนสัก

มีขั้นตอนบางอย่างเพื่อเตรียมผิวของคุณให้พร้อมสำหรับการสัก

  • การจัดทรงคิ้ว: จัดทรง ถอนขน หรือแวกซ์ขนคิ้ว อย่างน้อย 7 วันก่อนสักจะช่วยให้ผิวปรับสภาพได้ ทำให้ช่างทำงานได้ง่ายขึ้น
  • กรณีลบหรือแก้คิ้วเสีย: หากคุณไปสักคิ้วมาที่อื่นแล้วไม่พอใจ และต้องการให้เราแก้ รบกวนติดต่อช่างก่อนเพื่อดูรอยเก่าและทำการเสนอแนะว่าต้องแก้อะไร ปรับแต่งที่จำเป็นอย่างไร รวมถึงตกลงราคา

หลังสักต้องรอกี่วันถึงสวย

หลังสักกระบวนการสมานแผลจะมีดังนี้

  • ในช่วง 5 วันแรก: ฟิล์มจะยังคงอยู่บนผิวของคุณ ช่วยปกป้องบริเวณที่เพิ่งสักใหม่
  • วันที่ 6 ถึง 10: ฟิล์มจะเริ่มลอกทำให้เกิดอาการคันบ้าง
  • วันที่ 10 ถึง 14: ฟิล์มจะยกขึ้นจนสุด และคุณอาจสังเกตเห็นว่าหมึกดูจางลงและรูปร่างอาจหดตัวเล็กน้อย
  • หลังจากผ่านไป 4 ถึง 6 สัปดาห์: ผิวที่กำลังสมานตัวจะค่อยๆ จางลง ช่วยฟื้นคืนความสมบูรณ์ของคิ้วของคุณ

สิ่งสำคัญคือต้องทราบว่ากระบวนการบำบัดอาจแตกต่างกันไปในแต่ละคน และอีกหนึ่งสิ่งสำคัญคือให้ปฏิบัติตามวิธีการดูแลหลังการสักอย่างเคร่งครัดเพื่อให้แน่ใจว่าคิ้วจะหายดีและผลลัพธ์จะอยู่ได้ยาวนาน

คำถามที่พบบ่อย

1. ผิวมันสักได้ไหม แบบไหนถึงจะเหมาะ?

คุณสามารถสักคิ้วได้ถ้าคุณมีผิวมัน แนะนำให้เลือกสักคิ้วออมเบร หรือคิ้วแบบแป้งฝุ่น จะเหมาะที่สุดสำหรับผิวมัน

2. คิ้วบางสักได้ไหม?

ได้ค่ะ การสักคิ้วด้วยเทคนิคไมโครเบลดหรือคิ้วแบบฝุ่น สามารถช่วยให้คิ้วดูหนาขึ้น สม่ำเสมอยิ่งขึ้น และช่วยเติมเต็มจุดที่บางหรือแหว่งหายไป

3. สักแล้วไม่ชอบสี เปลี่ยนสีได้ไหม?

ได้ คุณสามารถลบหรือเปลี่ยนสีคิ้วได้ ที่ร้านมีลูกค้าคิ้วเสียมากให้ลบคิ้ว มาแก้กันทุกวัน

เราได้รวบรวมคำถามยอดฮิตจากลูกค้าทั้งหมดไว้ในโพสต์นี้ 👉”20+ ถาม/ตอบ ยอดฮิตเรื่องสักคิ้ว” สามารถเข้าไปหาคำตอบกันได้ค่ะ

การเลือกเทคนิคการสักคิ้วที่ถูกต้องเป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้ได้คิ้วที่สวยถูกใจ อยู่กับคุณไปนานๆ หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อย

และที่สำคัญ อย่าลืมนะคะ! เลือกช่างเขียนคิ้วที่มีประสบการณ์ซึ่งสามารถแนะนำคุณในการเลือกเทคนิคที่ดีที่สุดสำหรับสภาพผิวของคุณได้

4. สักคิ้วแบบไหนธรรมชาติที่สุด?

สักคิ้วลายเส้นค่ะ เพราะจะเป็นการสักที่เลียนแบบขนคิ้วของเรา สักแล้วจะออกมาแลดูเป็นเส้นขนธรรมชาติมากที่สุด

แชร์โพสต์
อ.เจน
อ.เจน

อาจารย์เจนสั่งสมประสบการณ์จริงในการสักคิ้ว/ปาก มากกว่า 15+ ปี จนได้รับความไว้วางใจให้เป็นช่างสักมือ 1 ของร้าน รับราชการเป็นพยาบาลวิชาชีพที่โรงพยาบาลของรัฐทั้งในไทย และประเทศแคนาดา ได้นำความรู้เรื่องสุขอนามัย มาประยุกต์ใช้กับ การสักปาก, สักคิ้ว และบริการอื่นๆ ของที่ร้านได้อย่างลงตัว เครื่องมือเครื่องไม้ที่ทางร้านใช้เน้นความสะอาด ปลอดภัยตามมาตรฐานสากล